แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ orthoses แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ orthoses แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2566

บันทึก 02 เทคโนโลยีกายอุปกรณ์

 

Part I:

 sco brace ( พลาสติกดามลำตัว สำหรับผู้มีกระดูกสันหลังคดงอ ) 

✍️เก็บแบบโดยใช้วิธีวัดขนาด+ภาพถ่าย+ xray ไม่ได้ใช้ 3D scanner 

💻Brace modifications ใช้ CanFit 

🖱️Trimline ส่วนตัวชอบจะวาดลงกระดาษก่อน 

✨เสร็จส่วนนี้จะได้ไฟล์ stl ของชิ้นงาน sco brace --> หลังจากนี้ ก็แปลงเป็น gcode เข้าเครื่อง 3d printer (Part II)



ปล ในคลิปใช้ภาพจาก google แทนภาพผู้ป่วยจริง


 #artitaya  #healthylittlesoles #3dprinting #brace #scoliosis #กายอุปกรณ์ #พลาสติกดามหลังคด #cpolife #orthoses

บันทึก01 เทคโนโลยีกายอุปกรณ์

 วันนี้ให้ IT มาเชื่อม WIFI เครื่องให้ เลยได้ เทสฟังก์ชันกล้องเป็นครั้งแรก 

คือสมมติเราสั่งเครื่องพริ้นงานอยู่ แต่เราต้องไปทำธุระที่อื่นแล้วเราอยากเชคหรือควบคุมการพริ้นออนไลน์ เราก็สามารถทำได้ผ่าน web browser เลย 

ที่ชอบคือดูการพิมพ์แบบเรียลไทม์ได้ด้วยว่าถึงไหนแล้ว งานเรียบร้อยมั๊ยหรือพังแล้ว 😆



Model: Assistive device for using with Triflow

🔻WASP 4070 3D printer

      Slicer software: Simplify3D

      Material: TPU


#wasp4070 #brace #3dprinting #orthoses #artitaya #healthylittlesoles

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

HowToBraceWell




Web App HowToBraceWell  (รุ่นทดลอง)


หมดเขต 12 ธันวาคม 2565

หรือดาวน์โหลด ในระบบ IOS ได้ ฟรี ที่ App Store 



คลิก

HowToBraceWell  




วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

รองเท้าสำหรับปัญหาเท้า

รองเท้าคนพิการ คืออะไร 
  
 คำว่า " รองเท้าคนพิการ" เป็นคำเรียกที่ให้เข้าใจได้ง่ายว่าเป็นรองเท้าตัดพิเศษสำหรับผู้มีเท้าพิการผิดรูปหรือมีปัญหาเท้าอื่นๆ

การที่เป็นรองเท้าตัดพิเศษนี้ หมายถึงเป็นการถูกผลิตโดยทำจากสัดส่วนเท้าเฉพาะบุคคล หรือเรียกว่ารองเท้าตัดเฉพาะบุคคล หรือ custom made shoe 

รองเท้าตัดเฉพาะบุคคล ไม่ได้จำเพาะว่าต้องเป็นรองเท้าคนพิการ จะเป็นรองเท้าของผู้มีเท้าปกติก็ได้ มีร้านทำรองเท้าหลายร้านในไทยที่เปิดรับตัดรองเท้าเฉพาะบุคคลสำหรับรูปเท้าปกติ 
                 รองเท้ากลุ่มนี้เป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้แก้ปัญหาของเท้า ในไทยถือว่ามีโรงพยาบาลรัฐหลายแห่งที่มีคลินิกกายอุปกรณ์ที่มีศักยภาพในการตัดรองเท้าสำหรับผู้พิการได้ อย่างไรก็ตามรองเท้ากลุ่มนี้ยังมีตัวเลือกให้เข้าถึงน้อยกว่า ราคาสูงกว่ารองเท้าสำเร็จรูปตามท้องตลาด รวมถึงปัญหาระยะเวลาในการผลิต

ผู้ที่มีปัญหาเท้าผิดรูปหรือมีปัญหาเท้าอื่นๆ จำเป็นต้องใช้รองเท้าคนพิการเสมอไปหรือไม่ 
       - คำตอบคือไม่เสมอไป 

         รองเท้าที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดมีความหลากหลายให้เลือกมากมาย ทั้งดีไซน์ รูปแบบ วัสดุ ราคา มีทั้งที่เป็นรองเท้าแฟชั่น รองเท้าสุขภาพ รองเท้าวิ่ง และอื่นๆ 

           หลายรายที่ผู้มีปัญหาที่เท้าสามารถใช้รองเท้าที่มีจำหน่ายตามท้องตลาด(โดยเลือกรูปแบบที่เหมาะสม)ร่วมกับกายอุปกรณ์เฉพาะบุคคล( orthotics)ได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องใช้รองเท้าตัดเฉพาะบุคคล

            หลายรายที่การดัดแปลงรองเท้าปกติ(Shoe modification) นั้นสามารถนำมาใช้กับเท้าที่ผิดรูปหรือมีปัญหาได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้รองเท้าตัดเฉพาะบุคคล

            แต่แน่นอนค่ะว่ามีบางรายที่ใช้วิธีข้างต้นทั้งสองไม่ได้ ก็จะนำมาสู่ตัวเลือกที่สาม คือ ตัดรองเท้าเฉพาะบุคคล

ตัวอย่างเคส ตัดรองเท้าเฉพาะบุคคล

          นาย ก อายุ 60 ปี มีปัญหาเท้าผิดรูปตั้งแต่เด็ก ไม่เคยได้รับการรักษา ไม่เคยใช้รองเท้าพิเศษใดๆ ปกติจะใช้รองเท้าแตะธรรมดาหรือไม่ใช้เลยเพราะรองเท้าเกาะเท้าได้ยาก เท้าขวาเกือบปกติมีการผิดรูปแบบบิดเข้าในเล็กน้อย เท้าซ้ายติดในท่าเขย่งไม่สามารถดัดกลับได้ นิ้วเท้าซ้ายติดในท่าแบะออก
           - เมื่ออายุมากขึ้นปัญหาจากความผิดรูปของเท้าเริ่มชัดขึ้น ความมั่นคงในการเดินลดลง เดินได้เพียงระยะสั้นๆกับ walking frame มีปัญหาแผลที่เท้า ปัญหาความเจ็บปวดที่เท้า

เคสนี้ใช้วิธีสแกนเท้าด้วย Isense 3D scanner ค่ะ หลังจากออกแบบรองเท้า เลือกวัสดุเรียบร้อย ก็ e -mail ไฟล์ไปให้ช่างทำรองเท้า ที่ฟิลิปปินส์ ส่วนตัวชอบวิธีนี้ค่ะ สะดวก ทุ่นแรงดี 




                   
                         ##ขออนุญาตใส่เครดิตไว้ในรูปชัดๆนะคะ เผอิญเจอว่าโดนเอารูปในบล็อกไปแอบอ้างเชิงพาณิชย์แล้วก็ดัดแปลงลบเครดิตออกค่ะ

เคสนี้ถามว่าใส่รองเท้าตัดเฉพาะบุคคลแล้วเดินง่ายเลยมั๊ย ก็ไม่นะคะ สังเกตมั๊ยคะว่ารองเท้าขวาถูกเติมพื้นให้หนาขึ้นมาเพื่อว่าจะทำให้ความสูงของขาทั้งสองข้างมันอยู่ในระดับเดียวกัน (คือให้ขายาวเท่ากัน) แต่ในรายที่เดินด้วยขาข้างนึงสั้นข้างนึงยาวต่อเนื่องมาหลายปีจนเคยชินอย่างนี้ จู่ๆจะให้เดินด้วยความสูงขาที่เท่ากัน เค้าจะปรับตัวไม่ทันแต่จะรู้สึกว่าการยืน/เดินมันไม่บาลานซ์เอามากๆๆ ความสูงของพื้นรองเท้าฝั่งขวาจึงต้องค่อยๆปรับเอาค่ะ เช่นในกรณ๊นี้ตัวพื้นรองเท้าฝั่งขวาก็จะถูกตัดออกประมาณครึ่งนึงก่อน เพื่อให้ผู้ใส่รู้สึกมั่นคงในการเดิน 







วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ปัญหาขาโก่ง กับตัวเลือกทางกายอุปกรณ์

ขาโก่ง หรือ Bowleg ในที่นี้หมายถึง อาการที่ข้อเข่าทั้งสองข้างโค้งแยกออกจากกัน ในขณะที่ข้อเท้าและเท้ายืนชิดติดกัน

ในเด็กเล็ก มักพบว่ามีอาการของ "เข่าโก่งแบบปกติ" หรือ Physiologic bowed leg" พบได้ทั่วไปในเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดือน ซึ่งเกิดจากการหมุน( twist)เล็กน้อยของกระดูกขณะอยู่ในท้องแม่ เมื่อเด็กเริ่มเดินได้ องศาการโก่งอาจเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยจากนั้นจะค่อยๆดีขึ้นจนเป็นปกติ หรือเกินปกติเล็กน้อยคือจากเดิมที่เข่าเบนออกกลายเป็นเบนเข้าใน หรือเรียกว่า "Knock-Knees" ซึ่งมักพบในช่วงอายุ 3-4 ปี หลังจากนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วขาจะมาตรงเป็นปกติ ในช่วงอายุ 7-8 ปี ดังรูป
ขอบคุณภาพจาก http://www.raffaelloriccio.com/page.php?req=patologie&id=95&cat=GINOCCHIO

อย่างไรก็ตามยังมีอีกกลุ่มที่เป็นอาการเข่าโก่งแบบ "ผิดปกติ" หรือเรียกว่า
"Pathologic bowed leg" เป็นขาโก่งที่พบไม่บ่อยนัก และมีสาเหตุค่อนข้างหลากหลาย อาทิ
- ฺBlount's disease เกิดจากการเติบโตที่ผิดปกติของกระดูกหน้าแข้ง ยิ่งเด็กเดินเยอะขึ้นองศาการโก่งก็จะยิ่งแย่ลง มักพบในเด็กเพศหญิง อ้วน และเด็กที่เริ่มเดินเร็วกว่าปกติ ทั้งนี้โดยปกติแล้วเด็กจะเริ่มเดินด้วยตัวเองเมื่ออายุ 11-14 เดือน
- กระดูกบาง กระดูกพรุ่นในเด็ก
- เด็กมีภาวะเต้ยแคระ
-อื่นๆ เช่น กระดูกหักแล้วไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม

สามารถจำแนก "Pathologic bowed leg" จาก Physiologic bowed leg" ได้คร่าวๆ คือ เข่าโก่งแบบปกติ มักเป็น 2 ข้างเท่ากัน และองศาการโก่ง ไม่เกิน 15 องศา เด็กไม่มีปัญหาตัวเตี้ย /ปัญหาเดินช้า

Q: หากพ่อแม่กังวลว่าลูกมีปัญหาขาโก่งหรือไม่ควรทำอย่างไร
A: ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์เพื่อเริ่มวางแผนการรักษาแต่เนิ่นๆ หากผู้ป่วยมีความจำเป็นที่จะใช้กายอุปกรณ์ในการรักษา ทางแพทย์จะส่งต่อผู้ป่วยมายังคลินิกกายอุปกรณ์เพื่อพิจารณาอุปกรณ์ที่เหมาะสมต่อไป 

Q :การออกกำลังกาย ทำกายภาพบำบัด สามารถแก้อาการเข่าโก่งได้หรือไม่ 
A: มีข้อมูลว่าการฝึกกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรง การออกำลังกายข้อเข่า จะช่วยลดแรงกระแทกต่อข้อเข่าขณะเดิน 

ตัวอย่างการใช้ เบรสดามเข่า( Knee ankle Orthoses, KAFO) สำหรับดัดแก้อาการเข่าโก่งในเด็กเล็ก 
ฟิลม์ X-ray เปรียบเทียบองศาขาโก่งก่อนใช้ knee orthoses และ องศาขาโก่งหลังใส่ knee ankle orthoses เป็นเวลา 6 เดือน


      เคสนี้เป็นเด็กเล็ก อายุ 1.5 ปี ถูกส่งมาคลินิกกายอุปกรณ์ ด้วยปัญหาขาโก่งผิดปกติ (> 20 องศา) ผู้เขียนได้เพลนทำการรักษาด้วย KAFO ไว้ที่ 1 ปี 
         แนวทางการทำ KAFO สำหรับเคสเช่นนี้ จุดที่ต้องคำนึงถึงมากเป็นพิเศษคือ การเลือกวัสดุที่เบาแต่แข็งแรงพอของตัวอุปกรณ์ เพราะด้วยความที่คนไข้เป็นเด็กเล็ก หากอุปกรณ์หนัก ใส่ไม่สบาย หรือ ให้ความรู้สึกเกะกะ เค้าจะไม่ยอมใส่ และการรักษาจะไม่สำเร็จ 
           
รูปKO ที่ใช้ในเคสนี้ หลังปรับองศาข้อเข่า
                           KO สำหรับเคสเข่าโก่งในเด็ก บาร์เหล็กด้านข้างมักถูกละออกเพื่อลดความหนัก แต่จะใช้ดีไซน์ขอบพลาสติกให้สูงขึ้นแทน ส่วนของเท้าในเคสนี้ได้ต่อพื้นรองเท้าเพิ่มขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการสวมใส่ตามที่ผู้ปกครองขอ 
ตัว KAFOO นี้พบว่าผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการใส่เป็นอย่างดี ใส่อย่างต่อเนื่องทุกวัน สามารถวิ่งเล่นขณะใส่ KAFO ได้ตามปกติ

หลังได้รับอุปกรณ์ ผู้ป่วยจะมาคลินิกเพื่อติดตามผลและปรับองศาข้อเข่าเป็นระยะ จนกระทั่งตัวข้อเข่าของ KAFOอยู่ในองศาปกติ ในเคสนี้ข้อเข่าถูกปรับให้อยู่ในแนวเข่าตรงปกติ ในเดือนที่ 3

และในเดือนที่ 6 พบว่าแนวขาของผู้ป่วยกลับมาอยู่ในแนวปกติ แม้ถอด KAFO ออก ดังรูป X-ray 

ถึงแม้แนวขาจะไม่โก่งแล้ว แต่จะยังแนะนำให้ผู้ป่วยใส่ KAFO ต่อไปอีก 3-6 เดือนเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ แต่จะลดชั่วโมงการใส่ในแต่ละวันลง 
อย่างไรก็ตามการใช้ KAFO เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการใช้รักษาขาโก่ง ยังมีทางเลือกอื่นๆอีก เช่น การผ่าตัด ซึ่งสามารถ​สอบถาม​ข้อมูล​เพิ่มเติม​ได้จากคุณ​หมอ​ออร์​โธ​ปิดิ​กส์​ 
จากประสบการณ์​ที่ทำ KAFO ในเด็กกลุ่ม​นี้​มา ผลลัพธ์​จะออกมาดีได้ จะต้องอาศัยปัจจัย​เหล่านี้คือ 1. นักกายอุปกรณ์​ต้องมีความชำนาญจริงในการทำอุปกรณ์ชนิดนี้  2. ผปค ต้องให้ความร่วมมือและสามารถคุมให้เด็กใส่อุปกรณ์​ได้อย่างต่อเนื่อง 
จะบกพร่องปัจจัย​ใดไปไม่ได้ มิฉะนั้น​การรักษาจะไม่สำเร็จ​

ก่อนหน้านี้เคยเขียนเกี่ยวกับขาโก่งไว้บ้างแล้วแต่จะเน้นเป็นการโก่งของหน้าแข้งไปด้านหน้า สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ 




วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

กายอุปกรณ์เสริมสำหรับไขสันหลังบาดเจ็บ

กายอุปกรณ์เสริมสำหรับไขสันหลังบาดเจ็บ

ตอนที่ 1
เมื่อพูดถึงการบาดเจ็บของไขสันหลังความรุนแรงของอาการมีหลายระดับมากค่ะ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของไขสันหลังที่บาดเจ็บ
ครั้งนี้ขอแนะนำกายอุปกรณ์เสริมสำหรับฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยไขสันหลังบาดเจ็บนะคะ
เป้าหมายของกายอุปกรณ์เสริมนี้ ก็เพื่อชดเชยความสามารถที่หายไปของผู้ป่วย ป้องกันการเคลื่อนไหว ให้ความมั่นคง ลดอาการเจ็บปวด ป้องกันการผิดรูป
กายอุปกรณ์ที่จะแนะนำนี้ ขอแบ่งเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน
กลุ่ม ที่ 1  กายอุปกรณ์ประคองคอ (Cervical Orthoses) ที่ใช้บ่อยได้แก่
- Halo Orthosis :มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการขยับของกระดูกคอทุกระดับ แต่มีข้อเสีย คือ ค่อนข้างเกะกะทำให้ผู้ป่วยกางแขนไม่สะดวกเนื่องจากติดไหล่ ทำให้อาจมีปัญหา บริเวณที่หมุดเจาะยึดติดกับกระโหลกศีรษะ เช่น หลุด หรือมีการอักเสบติดเชื้อนอกจากนี้ยังอาจเกิดแผลกดทับบริเวณปุ่มกระดูกต่างๆจึงต้องคอยระมัดระวังอยู่เสมอ
- Four-poster Orthosis : อุปกรณ์ชนิดนี้สวมใส่ค่อนข้าง สะดวก น้ำหนักเบา แต่ไม่สามารถป้องกันการเคลื่อนไหวได้เต็มที่เท่า Halo Orthosis
- SOMI (Sterno-Occipital-Mandibular-Immobilizer) : มีประสิทธิภาพในการควบคุมการเคลื่อนไหวได้น้อยกว่า และไม่สามารถป้องกันการเหยียดคอได้เลย
- Philadelphia Collar ประกอบด้วยแผ่นพลาสติก 2 แผ่นประกบส่วนคอทางด้านหน้าและด้านหลัง สามารถควบคุมการขยับของกระดูกคอได้เพียงเล็กน้อย จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีกระดูกคอไม่มั่นคง
- Soft Collar : เป็นแผ่นฟองน้ำหุ้มด้วยผ้ายืด ไม่สามารถป้องกันการขยับของกระดูกคอ แต่ใช้เป็นเพียงเครื่องช่วยเตือนให้ผู้ป่ วยระมัดระวังในการขยับคอ และช่วยลดอาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดเท่านั้นใช้สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีการแตกหักหรือเคลื่อนของกระดูกสันหลังระดับคอ


ตอนที่ 2
กายอุปกรณ์ประคองลำตัว(Spinal Orthoses)
• Plastic Body Jacket ทำจากพลาสติกชนิดเทอร์โมพลาสติก โดยการหล่อแบบผู้ป่วยและนำมาข้ึนรูป อุปกรณ์ชนิดน้ีสามารถป้องกันการขยับของกระดูกสันหลังระดับทรวงอก เอว และกระเบนเหน็บในทุกทิศทางของการเคลื่อนไหว รวมทั้งลดแรงกดในแนวดิ่งที่มีต่อกระดูกสันหลังได้ แต่มีข้อควรระวังในเรื่องของผู้ป่วยที่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการระบายความร้อนได้ไม่ดีหรือโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังอื่น
• Jewett Orthosis เป็นกายอุปกรณ์แบบสำเร็จรูป ประกอบด้วยโครงโลหะเชื่อมติดกับแผ่นรัดด้านหน้าซึ่งคลุมตั้งแต่กระดูกบริเวณหน้าอกไปจนถึงเชิงกราน แผ่นหลังอยู่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนทรวงอกต่อเอว ช่วยป้องกันไม่ให้หลังงอได้ดีมาก
• Knight-Taylor Orthosis ประกอบด้วยแกนโลหะแนวนอน 2 แกน แกนหนึ่งอยู่ที่ระดับสูงกว่าปลายล่างของกระดูกสะบัก และอีกแกนหนึ่งอยู่ระดับกระดูกเชิงกราน เชื่อมติดกันด้วยโลหะสองชิ้น ขนาบอยู่ทั้งสองข้างของกระดูกสันหลังและมีแกนด้านข้างลำตัวทั้งเซ้ายขวา เป็นตัวยึดแผ่นรัดหน้าท้อง มีสายคล้องไหล่ทั้งสองข้าง แบ่งตามระดับการควบคุมดังนี้- ระดับทรวงอก ป้องกัน flexion , extension, และ lateral flexion ได้ดีแต่ไม่สามารถป้องกันrotation ได้- ระดับเอว สามารถป้องกันการเคลื่อนไหวในทุกทิศทางได้ดีพอควร
- ระดับเอวต่อกระเบนเหน็บ สามารถป้องกัน lateral flexion และ rotation ได้ดี แต่ไม่สามารถจำกัดflexion  และ extension ได้

#กายอุปกรณ์ #ไขสันหลังบาดเจ็บ #spinalcordinjury  #ดามหลัง #ดามลำตัว #orthoses #bodyjacket #jewett #knighttaylor  #กายอุปกรณ์เสริม

ไขสันหลังบาดเจ็บ ตอนที่3 (จบ)
กายอุปกรณ์เสริมส่วนขา(Lower Limb Orthoses) : ในผู้ป่วยไขสันหลังบาดเจ็บนั้นการบาดเจ็บไขสันหลังอาจทำให้ใยประสาทในไขสันหลังถูกทำลาย กระแสประสาทจากสมองจึงไม่สามารถผ่านไปยังกล้ามเน้ือหรือจากกล้ามเน้ือผ่านไปยังสมองได้ เช่น การที่ส่วนของร่างกายที่ตำ่กว่าระดับไขสันหลังที่บาดเจ็บไม่มีความรู้สึก เพราะกระแสประสาทไม่สามารถส่งผ่านใยประสาทในไขสันหลังไปยังสมองได้ หรือผู้ป่วยไม่สามารถเดินได้ เนื่องจากกระแสประสาทไมสามารถส่งสัญญานใยประสาทในไขสันหลังไปยังเซลล์ไขหลังหลังควบคุมกล้ามเน้ือที่
ตำ่ลงมาให้ทำงานได้ เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยไขสันหลังบาดเจ็บ จะสูญเสียการรับความรู้สึกและการสั่งการให้กล้ามเน้ือทำงานใต้ระดับที่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้นและจากการที่ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งท่อนล่างสูญเสียการทำงานของกล้ามเน้ือขาและลำตัวส่วนล่างจึงทำให้ไม่สามารถยืนและเดินได้กายอุปกรณ์เสริมส่วนขาสำหรับผู้ป่ วยไขสันหลังบาดเจ็บจึงถูกออกแบบมาเพื่อลดความพิการที่จำกัดความสามารถในการเดินของคนไข้

การฟื้นฟูสมรรถภาพโดยกายอุปกรณ์เสริมส่วนขา
- ไขสันหลังบาดเจ็บถึงระดับ T1-T6 ผู้ป่วยไม่ใช้อุปกรณ์ประคองขาในการช่วยเดินได้ แต่อาจใช้เพื่อการจัดท่าของข้อเท้าหรือป้องกันข้อต่อยึดติด

- ไขสันหลังบาดเจ็บถึงระดับ T11 ผู้ป่วยสามารถเดินในราวได้ด้วยการใช้ กายอุปกรณ์เสริมดามขาชนิดยาวคลุมสะโพก

- ไขสันหลังบาดเจ็บถึงระดับ T12-L1 ผู้ป่วยบางรายสามารถเดินโดยใช้อุปกรณ์ประคองขากาย
อุปกรณ์เสริมดามขาชนิดยาวคลุมสะโพก กายอุปกรณ์เสริมดามขาชนิดยาวและไม้คำ้ยันในระยะทางสั้นๆ

- ไขสันหลังบาดเจ็บที่ระดับ L2-L3 ผู้ป่วยสามารถเดินได้ด้วย กายอุปกรณ์เสริมดามขาชนิดยาว และไม้เท้าหรือว็อกเกอร์

- ไขสันหลังบาดเจ็บที่ระดับต่ำกว่า L4 ผู้ป่วยสามารถเดินได้ด้วย กายอุปกรณ์เสริมดามขาชนิดสั้น

#กายอุปกรณ์ #ไขสันหลังบาดเจ็บ #spinalcordinjury #sci #ดามขา #orthoses #hkafo #kafo #afo #กายอุปกรณ์เสริม #พลาสติกดามขา

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

Pavlik Harness

เป็นอุปกรณ์ใช้กับทารกในปัญหา congenital hip displasia หรือ developmental hip dysplasia (ข้อสะโพกหลุดแต่กำเนิด) เป็นอาการสะโพกเลื่อนหรือหลุด คนละแบบกับ Neurogenic hip dislocation เช่น สะโพกหลุดในเด็กโรคสมองพิการอย่างที่เคยกล่าวถึงในโพสก่อนๆ นะคะ
กรณีนี้จะเกิดขึ้นในเด็กปกติ และสาเหตุยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ตัว pavlik harness จะมีสายพาดขาทั้งสองข้าง โยงไปถึงไหล่และหน้าอก เพื่อจับสะโพกและเข่าให้อยู่ในท่ากบ (ดังรูป) ใช้ในเด็กแรกเกิดถึง 6เดือน จะใส่ตลอดเวลา เพื่อช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของกระดูกเบ้าสะโพก, หัวสะโพก และส่งเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยรอบ ระยะเวลาในการใส่กี่สัปดาห์ขึ้นอยู่กับพัฒนาการกระดูกของทารกแต่ละราย


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.rch.org.au/kidsinfo/fact_sheets/Pavlik_Harness_for_DDH

วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

ขั้นตอนการทำ เบรสดามขาชนิดสั้น Ankle Foot Orthosis (plastic type)

ขั้นตอนการทำ เบรสดามขาชนิดสั้น Ankle Foot Orthosis (plastic type)

             บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจเกี่ยวกับงานด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูด้านนี้หรือผู้ที่ต้องการศึกษาด้านนี้เพิ่มเติม ได้เห็นแง่มุมของงานกายอุปกรณ์ที่ชัดเจนมากขึ้น มิได้สำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนด้านกายอุปกรณ์มาก่อนแล้วนำไปใช้ทำอุปกรณ์เอง เพราะงานด้านกายอุปกรณ์เป็นงานที่ใช้ความรู้หลายด้าน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ความรู้ทั่วไป วิทยาการการแพทย์ และความรู้ทางกายอุปกรณ์  เป็นวิชาชีพที่ต้องได้รับการศึกษาโดยจำเพาะ มีใบประกอบโรคศิลปะ จึงจะสามารถทำอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพออกมาได้จริง นอกจากศึกษาตามความรู้ที่มีอยู่เดิมแล้ว ยังต้องรู้จักคิดต่อยอดความรู้เดิมและรู้จักนำมาใช้ให้เหมาะสม

                 นอกเรื่องอีกอย่างนึงคือเกณฑ์การแบ้งผู้ผลิตกายอุปกรณ์ เรียกว่า category ซึ่งกายอุปกรณ์จะแบ่งเป็น
category I หมายถึงนักกายอุปกรณ์ซึ่งจบสาขานี้มาในระดับปริญญา แล้วก็จะมีโอกาสเข้าสอบ ISPO เป็นการสอบให้ผ่านมาตรฐานสากลของงานกายอุปกรณ์ category I ที่สอบผ่าน ISPO ก็เหมือนเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจะไปทำงานด้านนี้ที่ต่างประเทศก็ได้ แต่ถ้าสอบไม่ผ่านก็ประมาณว่าเป็นนักกายอุปกรณ์ได้แต่ในประเทศไทย ปัจจุบันมีที่เรียนหลักสูตรนี้ในประเทศไทยเพียงที่เดียวคือ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตรศิริราช สาขากายอุปกรณ์ 

category II คือคนที่จบอนุปริญญาด้านกายอุปกรณ์ อันนี้ตอนนี้ไม่เห็นมีเปิดหลักสูตรในไทยนะค่ะ เมื่อก่อนอาจเคยมีไม่แน่ใจ (ประเภทนี้บางประเทศก็มีสิทธิรักษาคนไข้ได้ บางประเทศก็ไม่อนุญาตโดยต้องรักษาคนไข้ภายใต้การดูแลของcategory I )

category III คือผู้ที่ผ่านการอบรมงานด้านกายอุปกรณ์ ไม่มีสิทธิรักษาคนไข้แต่จะเป็นผู้ช่วยให้นักกายอุปกรณ์ค่ะ
            

                ทั้งนี้กายอุปกรณ์ที่พิจารณาให้คนไข้นั้นจะพิจารณาสำหรับบุคคลเป็นรายๆไป แม้ในใบสั่งจะใช้อุปกรณ์ชื่อเหมือนกัน เช่น เบรสดามขาชนิดสั้น แต่ก็สามารถทำออกมาได้ผลที่แตกต่างกัน (เคยเจอกรณีที่ คนไข้มีอุปกรณ์เดิมเป็นเบรสดามขาชนิดสั้นแบบไม่มีข้อ อุปกรณ์ตัวใหม่เราก็ทำชนิดเดิมให้เค้า แต่เพิ่มความแข็งแรงของจุดรับเเรงกระแทกตรงข้อเท้ามากขึ้น ปรากฎว่าคนไข้ใส่แล้วเดินได้สวยขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด)  

มาดูขั้นตอนการทำกันเลยค่ะ
  1. การหล่อแบบ casting and measurement
         การหล่อแบบ AFO มักทำในท่านั่ง ให้คนไข้นั่งบนเก้าอี้ งอเข่า 90 องศา พันขาด้วย M wrap แล้ววาดปุ่มกระดูกต่างๆด้วยปากกาเมจิก จากนั้นใช้สายวัดตัวและ M-L diameter วัดความยาวและเส้นรอบวงของขาเสร็จแล้วใช้สายยางขนาดเล็กพาดไว้ที่ขาสำหรับรองขณะตัดเฝือกปูน 
         ต่อไปคือนำเฝือกปูนจุ่มน้ำแล้วพันให้รอบขา ก่อนที่ปูนจะแห้ง ต้องจัดท่าของเท้าให้เรียบร้อย (neutral position) เมื่อปูนเซ็ทตัวดีแล้วให้ใช้คัทเตอร์กรีดตามรอยสายยางเพื่อดึงเฝือกปูนออก
ก็จะได้เฝือกปูนหรือ negative cast ดังรูปด้านล่างค่ะ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
ซ้ายมือคือ negative cast ของเบรสดามขาชนิดยาว ขวาคือเบรสดามขาชนิดสั้น
    หลังจากได้ negative cast มาแล้ว ก็ปิดรอยตัดให้สนิทกับเฝือกปูน แต่ถ้าข้อเท้ายังไม่ได้รูปตามต้องการก็จัดแต่งได้เล็กน้อยในขั้นตอนนี้ จากนั้นล้างเฝือกปูนด้านในด้วยน้ำสบู่ แล้วเทปูนพลาสเตอร์ลงไป ดังรูปล่างนี้
เพิ่มคำอธิบายภาพ
หลังจากเทปูนลงใน cast และฝังลงถังทรายแล้ว รอประมาณ 20 นาทีให้ปูนแห้งจึงเริ่มขั้นตอนต่อไป

   2. การแต่งหุ่นปูน modification
เมื่อปูนที่เทไว้แแห้งดีแล้ว ก็แกะเฝือกปูนทิ้งไปเราก็จะได้ หุ่นปูน หรือ positive cast แล้วก็นำหุ่นปูนตัวนี้มา แต่งให้ได้รูปขาสำหรับขึ้นรูปพลาสติก ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยูjกับความยากง่ายของดีไซน์อุปกรณ์ ขนาด และความสมบูรณ์ของ negative cast คือถ้าหล่อแบบมาดีแต่แรกก็ไม่ต้องแต่งหุ่นปูนมากนัก เสร็จเรีบยร้อยก็ทิ้งไว้ให้แห้ง ดังรูปข้างล่าง
      
ขณะกำลังแต่งปูน ^.^



3. การขึ้นรูปพลาสติก
           นำหุ่นปูนที่แต่งเสร็จและแห้งดีแล้วมาเสียบไว้ที่ท่อดูดอากาศ สวมถุงน่องสองชั้น เพื่อให้อากาศดูดได้ทั่งถึง แล้วเตรียมแผ่นพลาสติก (polypropylene) ขนาดพอคลุมหุ่นปูน นำไปอบในตู้อบ ประมาณ 180 องศาเซลเซียส เมื่อพลาสติกสุกดีแล้ว(สีจะใส จากเดิมที่ขาวขุ่น) ก็นำขึ้นมาคลุมหุ่นปูน แล้วเปิดวาล์ว ดูดอากาศให้พลาสติกแนบไปกับหุ่นปูน เป้นอันเรีบยร้อยในขั้นตอนนี้ ที่ต้องระวังในขั้นตอนนี้คือ คลุมพลาสติกให้สนิท ถ้ามีช่องว่างลมจะไม่ดูด, ระวังพลาสติกและตู้อบ เพราะมันร้อนมาก, อย่าลืมทาแป้งบนถุงน่องก่อนคลุมพลาสติก , ขณะคลุมต้องระวังไม่ให้พลาสติกย่นหรือเป็นรอย , และต้องทำอย่างรวดเร็วก่อนพลาสติกจะเซ็ตตัว
ภาพขณะขึ้นรูปพลาสติก สัมนาที่ SSPO ปี 2012
    4. เตรียมลองอุปกรณ์ 
ต่อไปเมื่อขึ้นรูปพลาสติกแล้วก็ทิ้งไว้ให้หายร้อน ที่จริงควรทิ้งไว้ซัก 1 วัน เพราะถ้ารีบแกะออกพลาสติกมักจะขยายออก แล้วก็วาดขอบเขตของอุปกรณ์ (Trimline) ว่าจะใช้ส่วนไหนบ้าง แล้วก็ตัดออกมา ถ้าเป็น polypropylene จะใช้ cast cutter ตัด แต่ถ้าเป็น polyethylene ใช้คัตเตอร์กรีดเอาก็ได้

ตัดออกมาแล้วจะเห็นว่าขอบพลาสติกมันขรุขระมาก เราก็จะนำมันไปขัดให้เรียบเนียนก่อนกับ router  machine 

ขัดเสร็จแล้วก็จะได้เบรสเนียนเรียบสวยอย่างด้านบน เท่านี้ก็พร้อมสำหรับไปลองใส่กับคนไข้แล้วค่ะ 

หลังจากลองใส่ให้คนไข้เสร็จแล้ว ก็จะมีการตัดแต่งและติดสายรัดให้เรียบร้อย จากนั้นจะประเมิณคนไข้กับอุปกรณ์สอนเนะนำการใช้ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็เรียบร้อย กลับบ้านได้ :D แล้วจึงนัดติดตามผลเป็นระยะๆ


เสร็จเรียร้อย ^.^

วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

ไปตัดรองเท้าคนพิการ

ปัญหาการเดินในเด็ก
กรณีแรก เด็กเดินเขย่ง ซึ่งก็มีสาเหตุหลายอย่าง ทั้งจากนิสัยของเด็กเอง จากเส้นเอ็นของส้นเท้าหดสั้นมาแต่กำเนิด หรือผลจากความพิการทางสมอง
               เคยพบความเข้าใจผิดของหลายคนว่าทุกกรณีของการเดินเขย่งให้แก้ด้วยรองเท้าคนพิการ บ้างก็ว่ามันหนัก บ้างก็ว่าเพราะตรงที่หุ้มข้อเท้ามันเเข็ง ซึ่งข้อมูลนี้ยังไม่ถูกต้อง
               ถ้าเป็นจากนิสัยของเด็กเอง เราสามารถดูพัฒนาการของเค้าไปได้เรื่อยๆไม่ต้องกังวล สัก 2 ขวบเค้าจะหายได้เอง  
                ถ้าเป็นจากเส้นเอ็นของส้นเท้าหดสั้นอันนี้สามารถปรึกษาหมอกระดูกได้ค่ะ ว่าจำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่อย่างไร และเหมาะสำหรับการสั่งตัดรองเท้าคนพิการได้ เพราะกรณีนี้รองเท้าคนพิการจะช่วยเสริมตรงส้นขึ้นรองการเดินด้วยเท้าที่ติดเขย่ง ให้มีการกระจายน้ำหนักไปทั่วส่วนของเท้า หากไม่มีการเสริมความสูงตรงส้นน้ำหนักจะลงเฉพาะที่ปลายเท้า แต่อย่าเข้าใจผิดว่าตัวรองเท้ามันช่วยดัดให้เท้าที่เขย่งกลับมาตรงเป็นปกติ มันแค่เสริมตรงส้น ไม่มีการดัดแก้อะไรทั้งสิ้น ความพิการยังคงมีอยู่ เรียกว่ารองเท้าเพียง accomodation ไม่ใช่ correction 
ตย รองเท้าคนพิการ
                ถ้าเป็นผลจากความพิการทางสมอง (cerebral palsy) หรือ CPกรณีที่ต้องการเสริมส้นให้เด็กเดินดูเต็มพื้นก็ใช้รองเท้าคนพิการได้ แต่กรณีปกติแล้วนักกายอุปกรณ์จะใช้อุปกรณ์ดามขา เรียกว่า ankle foot orthoses หรือ AFO มักเป็นพลาสติกดามขา เพราะมันจะช่วยดัดแก้เท้าที่ผิดรูปนั้นให้กลับมาตรงในท่าปกติและป้องกันการผิดรูปของเท้า ในตลอดเวลาที่ใส่อุปกรณ์ เนื่องจากใน  CP คนไข้จะมีระบบของกล้ามเนื้อที่ไม่สมดุล ถ้าปล่อยให้มีการเกร็ง ผิดรูปมากขึ้นเรื่อยๆก็จะกลายเป็นข้อติดหรือเท้าที่ผิดรูปถาวรไปได้ หรือจะใช้ดามหลังผ่าตัดเพื่อป้องกันการกลับมาผิดรูปซ้ำ การใส่ AFO แนะนำให้ใส่ตั่งแต่คนไข้อายุยังน้อยแต่มีแนวโน้มที่จะเกิดเท้าผิดรูปจากกล้ามเนื้อที่ไม่สมดุล เกร็ง การใส่แต่เนิ่นๆจะให้ผลที่ดีกว่าในการป้องกันการผิดรูป พบว่าคนไข้ที่เพิ่งมาได้รับอุปกรณ์เมื่อเป็นเด็กโตแล้วเท้ามีความผิดรูปแบบค่อนข้างติดแข็งบางส่วนแล้ว การได้อุปกรณ์จะช่วยเพียงป้องกันไม่ให้บิดผิดรูปมากขึ้นเท่านั้นมักไม่สามารถดัดแก้ได้ทั้งหมด

ตย AFO
      
กรณีต่อมาคือในคนไข้ที่ เท้าแบน เท้าบิดออกนอก สามารถพบได้ตั้งแต่เท้าแบนปกติในเด็กไปจนเท้าแบะผิดรูป ทั้งนี้เท้าแบนพบได้ทั่วไปในเด็กเล็กค่ะ แล้วเค้าจะหายได้เองเมื่อโตขึ้น นอกจากจะเป็นพันธุกรรมที่พ่อหรือแม่มีเท้าแบนอย่างนี้ก็จะเป็นไปจนโต มีทั้งแบบ เท้าแบนเมื่อยืนหรือลงน้ำหนักหรือเท้ามีลักษณะแบนแม้ไม่ได้ลงน้ำหนัก กรณีเท้าแบนจะช่วยด้วย insole ในรองเท้าค่ะ
อ่านเรื่องเท้าแบนและเท้าอื่นได้ที่ http://artitayacenter.blogspot.com/2013/04/blog-post_8.html

เท้าซ้ายแบะออกนอก (valgus)

ตามรูปนะค่ะเท้าแบะออกนอกเมื่อยืนลงน้ำหนัก ถ้าไม่หนักมากอาจดัดให้ตรงได้โดยใช้รองเท้าคนพิการค่ะ โดยการเสริม wedgeใต้แผ่นรองรองเท้า ถ้ายังไม่ได้ผลก็ดามด้วย orthoses แบบพลาสติก
ลักษณะการดัดเท้าผิดรูปโดยใช้ wedge ในรองเท้า
มีความเข้าใจผิดที่ว่าเท้าผิดรูปใช้รองเท้าธรรมดาหุ้มส้นที่ขอบเเข็งก็ช่วยดัด/ประคองได้บ้าง ที่จริงคือช่วยไม่ได้เลยนะ ไม่ได้ทำหน้าที่อะไรนอกจากเป็นรองเท้าปกติเลย
  รองเท้าคนพิการเป็นรองเท้าตัดเฉพาะบุคคล หรือเรียกว่า custom made shoe นอกจากจะใช้ในผู้มีปัญหาเท้าผิดรูปแล้ว กรณีที่เท้าขาดไปบางส่วนหรือเท้าที่มีแผลเรื้อรัง เช่นในผู้ป่วยเบาหวาน ก็เหมาะสมที่จะใช้เช่นกัน โดยหลักการจะออกแบบให้มีการลงน้ำหนักที่หลีกเลี่ยงจุดบอบบางบาดเจ็บง่าย มีการทำ rocker sole ช่วยผ่อนแรงในการเดิน ทำให้เดินได้คล่องและมั่นคง



บันทึก 02 เทคโนโลยีกายอุปกรณ์

  Part I:  sco brace ( พลาสติกดามลำตัว สำหรับผู้มีกระดูกสันหลังคดงอ )  ✍️เก็บแบบโดยใช้วิธีวัดขนาด+ภาพถ่าย+ xray ไม่ได้ใช้ 3D scanner  💻Brac...